เครือเจริญโภคภัณฑ์จับมืออิโตชู บริษัทการค้าชั้นนำจากญี่ปุ่น ร่วมทุนฝ่ายละ 50:50 ใน ซิติก ลิมิเต็ด กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีน ด้วยเงินลงทุนเกือบ 350,000 ล้านบาท เสริมศักยภาพของภาคธุรกิจในเอเชีย ตั้งเป้าหมายผนึกกำลังขยายธุรกิจ
20 January 2015
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ และอิโตชู คอร์ปอเรชั่น บริษัทการค้าชั้นนาของประเทศญี่ปุ่นได้เข้าไปลงทุนในบริษัท ซิติก ลิมิเต็ด จากัด (CITIC Limited) ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่และทาธุรกิจหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งของจีนและถือเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (ดัชนีฮั่งเส็ง) จึงนับเป็นการสร้างความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ระหว่างบริษัทชั้นนา ของเอเชียได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น และจีน โดยมีเป้าหมายที่จะผนึกกาลังเพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าการลงทุน ทั้งในเอเชียและทั่วโลก ซึ่งจะเสริมศักยภาพของภาคธุรกิจในเอเชียให้โดดเด่นบนเวทีโลก โดยในส่วนของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้นการร่วมทุนนี้จะช่วยขยายโอกาสธุรกิจด้านเกษตรอุตสาหกรรม และอาหาร การค้าปลีกและการค้าระหว่างประเทศ และอื่น ๆ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของทุกฝ่าย ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการค้า และส่งเสริมการลงทุนในไทยและทั่วภูมิภาค
"เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่เข้าไปลงทุนในจีนตั้งแต่ปี 2522 หลังจากที่จีนได้เริ่มเปิดประเทศ วันนี้ผมรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายที่สุดแห่งของจีน" นายธนินท์ กล่าว
การร่วมลงทุนระหว่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ และอิโตชู ในครั้งนี้ได้ตกลงให้บริษัท เจียไต๋ ไบรท์ อินเวสต์เม้นท์ จากัด หรือ ซีที ไบรท์ (CT Bright) ซึ่งเป็นบริษัทที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูเป็นเจ้าของร่วมกันในสัดส่วน 50:50 เข้าไปลงทุนในซิติก ลิมิเต็ด รวมทั้งสิ้น 80,000 ล้านเหรียญฮ่องกงหรือประมาณ 343,000 ล้านบาทโดยร่วมกันลงทุนฝ่ายละประมาณ 171,500 ล้านบาท ทั้งนี้ การลงทุนประกอบด้วย 2 ธุรกรรม ได้แก่ ธุรกรรมแรก ซีที ไบรท์จะซื้อหุ้นซิติก ลิมิเต็ด จานวน 2,490,332,363 หุ้น คิดเป็น 10%ของหุ้นซิติก ลิมิเต็ด มีมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านบาท และหุ้นดังกล่าวถือครองโดย ซิติก กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลจีน ปัจจุบันถือครองหุ้นจานวน 78%ในซิติก ลิมิเต็ด ส่วนธุรกรรมที่ 2 เป็นการลงทุนโดยการซื้อหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ ซึ่งซิติก ลิมิเต็ด จะออกหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพจานวน 3,327,721,000 หุ้นแก่ซีที ไบรท์ คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 194,000 ล้านบาท
ทั้งสองธุรกรรมนี้มีราคาซื้อขายตกลงกันอยู่ที่ 13.80 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น หรือ ประมาณ 58 บาทต่อหุ้น การซื้อขายหุ้นครั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกากับดูแลที่เกี่ยวข้อง และการออกหุ้นบุริมสิทธิจะต้องได้รับอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้นอิสระรายย่อยของซิติก ลิมิเต็ด ในการประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เมื่อการดาเนินการทั้งสองธุรกรรมเสร็จสิ้น จะส่งผลให้ซีที ไบรท์ เป็นผู้ถือหุ้นในซิติก ลิมิเต็ดคิดเป็นสัดส่วน 20% ของหุ้นซิติก ลิมิเต็ดทั้งหมด
นายฉาง เจิ้นหมิง (Chang Zhenming) ประธานกรรมการ บริษัท ซิติก ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า ซิติก ลิมิเต็ด รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นครั้งนี้ เพราะนอกจากจะทาให้ ซิติก ลิมิเต็ด มีผู้ถือหุ้นที่หลากหลาย และสามารถระดมเงินจากการเพิ่มทุนได้อีกประมาณ 46,000 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 194,000 ล้านบาท ซึ่งจะนาไปพัฒนาธุรกิจต่าง ๆ ของซิติก ลิมิเต็ด รวมทั้งลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับการพัฒนาของจีน ทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์ และอิโตชูเป็นกลุ่มธุรกิจระดับโลกที่จะช่วยเสริมศักยภาพและต่อยอดทางธุรกิจให้ซิติก ลิมิเต็ด การลงทุนในครั้งนี้เป็นความต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปบริษัทซึ่งได้เริ่มต้น เมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้เปลี่ยนจาก ซิติก แปซิฟิก มาเป็น ซิติก ลิมิเต็ด ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในจีน นายฉาง เจิ้นหมิง กล่าว
นายมาซาฮีโร่ โอกาฟูจิ (Masahiro Okafuji) ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวว่า อิโตชูพยายามมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจในจีนและเอเชีย ด้วยเหตุนี้จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และซิติก ซึ่งต่างเป็นบริษัทชั้นนาของภูมิภาคนี้ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการร่วมทุนนี้จะเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตลอดจนเสริมความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่น จีน ไทยและประเทศในเอเชีย "อิโตชูเติบโตก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นเพราะความทุ่มเทและอุทิศตนของผู้บริหาร ในรุ่นก่อน ๆ การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นผลของความพยายามในการสร้างธุรกิจของเราในจีนมาตั้งแต่ได้รับ การยกย่องจากรัฐบาลจีนให้เป็น บริษัทการค้าที่เป็นมิตร (Friendly trading house) เมื่อปี 2515" นายมาซาฮีโร่ กล่าว ทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูนั้นถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในจีนนับตั้งแต่จีนเปิดประเทศ และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเมื่อปี 2554 อิโตชู ได้ลงทุนมูลค่า 3,300 ล้านบาทในธุรกิจการจัดการทรัพย์สินในฮ่องกงของ ซิติก กรุ๊ป และยังได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือเชิงธุรกิจกันอีกด้วย และเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูได้ลงนาม ความร่วมมือกันเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนไปทั่วโลก
นายธนินท์ กล่าวสรุปว่า "ความร่วมมือกันระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ อิโตชูและซิติก ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสาคัญของภาคธุรกิจในเอเชีย เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียเติบโตสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้เพราะการผนึกกาลังโดยอาศัยจุดแข็ง เครือข่าย และทรัพยากรร่วมกันของทั้งสามกลุ่มธุรกิจซึ่งต่างเป็นผู้นำในตลาดโลก จะก่อให้เกิดการลงทุนในภาคธุรกิจที่หลากหลายประเภท และขยายธุรกิจไปในนานาประเทศมากขึ้นทั้งในเอเชียและทั่วโลก"
"เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่เข้าไปลงทุนในจีนตั้งแต่ปี 2522 หลังจากที่จีนได้เริ่มเปิดประเทศ วันนี้ผมรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายที่สุดแห่งของจีน" นายธนินท์ กล่าว
การร่วมลงทุนระหว่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ และอิโตชู ในครั้งนี้ได้ตกลงให้บริษัท เจียไต๋ ไบรท์ อินเวสต์เม้นท์ จากัด หรือ ซีที ไบรท์ (CT Bright) ซึ่งเป็นบริษัทที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูเป็นเจ้าของร่วมกันในสัดส่วน 50:50 เข้าไปลงทุนในซิติก ลิมิเต็ด รวมทั้งสิ้น 80,000 ล้านเหรียญฮ่องกงหรือประมาณ 343,000 ล้านบาทโดยร่วมกันลงทุนฝ่ายละประมาณ 171,500 ล้านบาท ทั้งนี้ การลงทุนประกอบด้วย 2 ธุรกรรม ได้แก่ ธุรกรรมแรก ซีที ไบรท์จะซื้อหุ้นซิติก ลิมิเต็ด จานวน 2,490,332,363 หุ้น คิดเป็น 10%ของหุ้นซิติก ลิมิเต็ด มีมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านบาท และหุ้นดังกล่าวถือครองโดย ซิติก กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลจีน ปัจจุบันถือครองหุ้นจานวน 78%ในซิติก ลิมิเต็ด ส่วนธุรกรรมที่ 2 เป็นการลงทุนโดยการซื้อหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ ซึ่งซิติก ลิมิเต็ด จะออกหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพจานวน 3,327,721,000 หุ้นแก่ซีที ไบรท์ คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 194,000 ล้านบาท
ทั้งสองธุรกรรมนี้มีราคาซื้อขายตกลงกันอยู่ที่ 13.80 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้น หรือ ประมาณ 58 บาทต่อหุ้น การซื้อขายหุ้นครั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกากับดูแลที่เกี่ยวข้อง และการออกหุ้นบุริมสิทธิจะต้องได้รับอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้นอิสระรายย่อยของซิติก ลิมิเต็ด ในการประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เมื่อการดาเนินการทั้งสองธุรกรรมเสร็จสิ้น จะส่งผลให้ซีที ไบรท์ เป็นผู้ถือหุ้นในซิติก ลิมิเต็ดคิดเป็นสัดส่วน 20% ของหุ้นซิติก ลิมิเต็ดทั้งหมด
นายฉาง เจิ้นหมิง (Chang Zhenming) ประธานกรรมการ บริษัท ซิติก ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า ซิติก ลิมิเต็ด รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นครั้งนี้ เพราะนอกจากจะทาให้ ซิติก ลิมิเต็ด มีผู้ถือหุ้นที่หลากหลาย และสามารถระดมเงินจากการเพิ่มทุนได้อีกประมาณ 46,000 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 194,000 ล้านบาท ซึ่งจะนาไปพัฒนาธุรกิจต่าง ๆ ของซิติก ลิมิเต็ด รวมทั้งลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับการพัฒนาของจีน ทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์ และอิโตชูเป็นกลุ่มธุรกิจระดับโลกที่จะช่วยเสริมศักยภาพและต่อยอดทางธุรกิจให้ซิติก ลิมิเต็ด การลงทุนในครั้งนี้เป็นความต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปบริษัทซึ่งได้เริ่มต้น เมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้เปลี่ยนจาก ซิติก แปซิฟิก มาเป็น ซิติก ลิมิเต็ด ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในจีน นายฉาง เจิ้นหมิง กล่าว
นายมาซาฮีโร่ โอกาฟูจิ (Masahiro Okafuji) ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท อิโตชู คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวว่า อิโตชูพยายามมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจในจีนและเอเชีย ด้วยเหตุนี้จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และซิติก ซึ่งต่างเป็นบริษัทชั้นนาของภูมิภาคนี้ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการร่วมทุนนี้จะเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ตลอดจนเสริมความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่น จีน ไทยและประเทศในเอเชีย "อิโตชูเติบโตก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นเพราะความทุ่มเทและอุทิศตนของผู้บริหาร ในรุ่นก่อน ๆ การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นผลของความพยายามในการสร้างธุรกิจของเราในจีนมาตั้งแต่ได้รับ การยกย่องจากรัฐบาลจีนให้เป็น บริษัทการค้าที่เป็นมิตร (Friendly trading house) เมื่อปี 2515" นายมาซาฮีโร่ กล่าว ทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูนั้นถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในจีนนับตั้งแต่จีนเปิดประเทศ และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเมื่อปี 2554 อิโตชู ได้ลงทุนมูลค่า 3,300 ล้านบาทในธุรกิจการจัดการทรัพย์สินในฮ่องกงของ ซิติก กรุ๊ป และยังได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือเชิงธุรกิจกันอีกด้วย และเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์และอิโตชูได้ลงนาม ความร่วมมือกันเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนไปทั่วโลก
นายธนินท์ กล่าวสรุปว่า "ความร่วมมือกันระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ อิโตชูและซิติก ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสาคัญของภาคธุรกิจในเอเชีย เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียเติบโตสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้เพราะการผนึกกาลังโดยอาศัยจุดแข็ง เครือข่าย และทรัพยากรร่วมกันของทั้งสามกลุ่มธุรกิจซึ่งต่างเป็นผู้นำในตลาดโลก จะก่อให้เกิดการลงทุนในภาคธุรกิจที่หลากหลายประเภท และขยายธุรกิจไปในนานาประเทศมากขึ้นทั้งในเอเชียและทั่วโลก"