“เครือเจริญโภคภัณฑ์” เปิดประตูสู่ฝัน ผนึกกำลัง “แบงค็อก ยูไนเต็ด-กรุงเทพคริสเตียน” สานต่อโครงการ “ซีพี สานฝัน ปันโอกาส ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 2” เฟ้นเด็กไทยทักษะเยี่ยม 20 คนจากทั่วประเทศ คว้าโอกาสพัฒนาศาสตร์ลูกหนังอย่างมืออาชีพพร้อมทุนเรียนฟร
9 พฤศจิกายน 2560 - เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผนึกกำลัง สโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย พร้อมการสนับสนุนจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เจียไต๋ จำกัด และ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดตัว โครงการ “ซีพี สานฝัน ปันโอกาส ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 2 ” โดยมี นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายขจร เจียรวนนท์ ผู้อำนวยการบริหาร ด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ ประธานสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ดร.บรรจง ชมภูวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ให้เกียรติมาร่วมแถลงข่าว ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 21 อาคารทรู ทาวเวอร์
นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านประสานกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงโครงการ "ซีพี สานฝัน ปันโอกาส ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 2" ว่า "เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของเยาวชนไทย ที่มีหัวใจรักฟุตบอลและมีทักษะฝีเท้าอันยอดเยี่ยมแต่ขาดซึ่งโอกาสและการสนับสนุน จึงได้ผนึกกำลังร่วมกันกับพันธมิตรสานต่อโครงการซีพี สานฝัน ปันโอกาส ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 2 เพื่อเปิดประตูก้าวขึ้นสู่ความฝันให้กับเด็กไทยทั้งประเทศ โดยการคัดเลือกเยาวชนที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2549 - 31 ธันวาคม 2550 ที่มีทักษะดี จำนวน 20 คน เข้าเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังอย่างมืออาชีพกับ BUFC Academy โครงการฝึกหัดฟุตบอลที่มีมาตรฐานสากลของสโมสรชั้นนำอย่างแบงค็อก ยูไนเต็ด พร้อมได้รับทุนการศึกษาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าศึกษาในโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนักฟุตบอลไทยที่มีความสามารถ นำไปสู่การยกระดับและพัฒนาไปสู่นักฟุตบอลอาชีพ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยก้าวไปทัดเทียมกับนานาชาติได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเยาวชนกว่า 6,000 คนตอบรับเข้าร่วมการคัดเลือกใน 10 สนามกีฬาในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ"
ด้าน นายขจร เจียรวนนท์ ผู้อำนวยการบริหาร ด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ ประธานสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า "มีความยินดี และภูมิใจที่จะนำความรู้และทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลอย่างมืออาชีพ มาถ่ายทอดให้กับเยาวชนอายุ 11- 12 ปี ซึ่งนับเป็นช่วงอายุที่มีความเหมาะสม เพราะอยู่ในช่วงที่มีทัศนคติที่พร้อมเปิดรับการฝึกฝนด้วยความมุ่งมั่น ซึ่งการบ่มเพาะศาสตร์ฟุตบอลตามเบสิกพื้นฐานที่ดีและถูกต้อง จะทำให้เยาวชนมีโอกาสพัฒนาทักษะการเล่นไปในทิศทางที่ถูกต้องแบบมืออาชีพ โดยเยาวชนทั้ง 20 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ จะได้รับการพัฒนาทักษะจากทีมผู้ฝึกสอนจาก BUFC Academy นำโดย Mr. Ernst Middendorp และ Mr. Daniele Invincibile อีกทั้งยังจะมีโอกาสแข่งขันกับทีมเยาวชนอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ พัฒนาขีดความสามารถ จนพร้อมที่จะเริ่มต้นเข้าสู่อาชีพนักฟุตบอลได้เมื่ออายุประมาณ 18 ปี โดยมุ่งหวังว่าเยาวชนทุกคนจะมีโอกาสก้าวไปสู่ความสำเร็จตามความฝันบนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยในวงการฟุตบอลระดับโลกต่อไปในอนาคต"
ขณะที่ ดร.บรรจง ชมภูวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า "ทางโรงเรียนจะมุ่งพัฒนาเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 20 คนจากโครงการนี้ให้มีความสามารถทางด้านวิชาการควบคู่กับการฝึกฝนทักษะฟุตบอลอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ก้าวขึ้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต ซึ่งโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย มีประสบการณ์ในการพัฒนานักฟุตบอลระดับเยาวชนมาอย่างยาวนาน และยังเป็นสถาบันที่บ่มเพาะนักฟุตบอลฝีเท้าดีขึ้นมาติดทีมชาติไทยตลอดจนเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาแล้วมากมาย"
ด.ช.เกียรติภูมิ ศรีปน หรือ “น้องปิง” อายุ 14 ปี จากจ.มหาสารคาม หนึ่งในเยาวชนโครงการ ซีพี สานฝัน ปันโอกาส “ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 1” ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ปัจจุบันนี้ต้องทุ่มเททั้งด้านการเรียนและการซ้อมฟุตบอลอย่างหนัก ต้องซ้อมวันละ 2 ชั่วโมงหลังเลิกเรียนและวันเสาร์ช่วงเช้า แต่ก็ไม่ย้อท้อเพราะเขาโชคดีที่ได้รับโอกาสให้เดินตามความฝันสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ทำให้ 1 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปมากและได้พัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลให้ดีขึ้น รวมทั้งได้รับประสบการณ์จากการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเข้าแข่งขันในรายการ Norway Cup ประเทศนอร์เวย์ ทำให้เรียนรู้ว่า ยังต้องพัฒนาตัวเองขึ้นอีกมาก ไม่ว่าจะด้านสรีระร่างกาย เพื่อจะแข่งขันกับนักฟุตบอลต่างชาติที่มีร่างกายสูงใหญ่ นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มความแข็งแกร่งและทักษะการเล่นฟุตบอลอีกมาก
ด.ช.วรวิช สุวรรณมาลา หรือ “น้องเต้” อายุ 12 ปี จากจ.ระยอง เป็นอีกหนึ่งในเยาวชนโครงการฯ รุ่นที่ 1 ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย บอกว่า โครงการนี้ทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงการจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ พร้อมๆกับการให้ความสำคัญทางด้านการศึกษา โดยต้องขยันฝึกซ้อม อดทน มีวินัย ไม่ดื้อและมีความรับผิดชอบสูง ประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุดจากโครงการนี้คือ ได้โอกาสไปแข่งขันที่ประเทศจีนและได้เรียนรู้ว่า ในโลกของฟุตบอล ยังมีคนที่เก่งๆอีกมาก ดังนั้น จึงไม่ควรประมาทและต้องมุ่งมั่นพัฒนาทักษะตัวเองให้เก่งยิ่งๆขึ้น เพื่อให้ความฝันที่จะเข้าไปสู่วงการฟุตบอลในระดับนานาชาติเป็นจริงได้
โครงการ ซีพี สานฝัน ปันโอกาส “ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ รุ่น 2” จะทำการคัดเลือกเยาวชนรอบแรกที่สนามกีฬา 10 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเริ่มจังหวัดแรกที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 2 ธ.ค.นี้ สนามกีฬาสุรพลากรีฑาสถาน (ม.เทคโนโลยีสุรนารี) ตามด้วย จ.กาญจนบุรี วันที่ 9 ธ.ค. สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (สนามกลีบบัว) , จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 11 ธ.ค. สนามกีฬาพีคสกอร์คลับ , จ.พิษณุโลก วันที่ 16 ธ.ค. สนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก , กรุงเทพฯ วันที่ 23 ธ.ค. สนามกีฬากองทัพบก , จ.ร้อยเอ็ด วันที่ 6 ม.ค. 2561 สนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด , จ.เชียงใหม่ วันที่ 16 ม.ค. สนามเทศบาลนครเชียงใหม่ , จ.ขอนแก่น วันที่ 20 ม.ค. สนามกีฬา 50 ปี ม.ขอนแก่น , หาดใหญ่ วันที่ 27 ม.ค. สนามกีฬากลางม.สงขลานครินทร์ และ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 3 ก.พ. สนามกีฬากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทีมโค้ชสโมสร แบงค็อก ยูไนเต็ด โดย Mr. Daniele Invincibile และ Mr.Ernst Middendorp และโค้ชทีมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โดย อาจารย์บุญเลิศ เกียรติเอี่ยม จะร่วมกันคัดเลือกเยาวชน โดยมีกติกาการคัดเลือกรอบแรกในช่วงเช้า ทดสอบทักษะฟุตบอล 4 ฐานเพื่อเก็บคะแนนรวมสะสม ได้แก่ ฐานที่ 1 Juggling : ทักษะการเตะบอล ฐานที่ 2 Dribbling/ speed: ทักษะการเลี้ยงบอล ฐานที่ 3 Shooting : ทักษะการยิงประตู ฐานที่ 4 Passing ball/ speed: ทักษะการผ่านบอล จากนั้นคัดเลือกเยาวชนที่ได้คะแนนตามเกณฑ์เข้าสู่ในช่วงบ่ายลงทีมแข่ง match 7 คน ใช้เวลาเกมส์ละ 15 นาที เพื่อคัดเข้าสู่รอบตัดสิน ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพื่อมาเข้าแคมป์ที่กรุงเทพฯ คัดเลือกเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเตะเยาวชนตัวจริง 20 คนสุดท้าย
ซึ่งเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 20 คนจากทั่วประเทศเข้าสู่โครงการซีพี สานฝัน...ปันโอกาส “ปั้นเยาวชนเข้าสโมสรฟุตบอลอาชีพ” รุ่น 2 จะได้ทุนการศึกษาจากเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าศึกษาต่อโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 พร้อมทั้งได้รับการฝึกหัดฟุตบอลอาชีพตามหลักมาตรฐานระดับโลกของ BUFC Academy และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โดยโครงการนี้จะให้ความสำคัญทั้งด้านทักษะฟุตบอล และเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนทั้งด้านร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งเพื่อบ่มเพาะให้มีความพร้อมที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้เมื่อตอนอายุประมาณ18 ปี ควบคู่ไปกับส่งเสริมด้านวิชาการ เพื่อให้ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงบนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในอนาคตตามศักยภาพและพรสวรรค์ของแต่ละบุคคล
สำหรับคุณสมบัติผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการฯ จะเปิดรับสมัครเฉพาะเยาวชนชายไทยที่เกิดในปี พ.ศ. 2549-2550 และต้องได้รับการรับรองจากบิดามารดา ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่ www.cp-dreams.com หรือ https://www.facebook.com/CPDream ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือสามารถสมัครได้ที่ ณ สนามกีฬาทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศก่อนการคัดเลือกเวลา 09.00 น. หากต้องการสอบถามรายละเอียด กติกาการแข่งขัน และการสมัคร ติดต่อได้ที่ โทร.02-766-8472, 02-766-7341 ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 16.00 น.