เครือซีพีติดอันดับความยั่งยืนในรายงาน The Sustainability Yearbook 2022 ระดับ Bronze Class ในกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates จาก S&P Global ตอกย้ำผู้นำธุรกิจไทยมุ่งสู่ “องค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนระดับโลก”
2 กุมภาพันธ์ 2565 - บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ เครือซีพี ติดอันดับในรายงาน The Sustainability Yearbook 2022 จัดทำโดย S&P Global ซึ่งเป็นการประกาศรายชื่อบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยรายงานนี้ถือเป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงด้านความยั่งยืนขององค์กรระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือสูงและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักลงทุน โดยเครือซีพีเป็นองค์กรเอกชนไทยรายเดียวที่ได้รับการประเมินดัชนีความยั่งยืนอยู่ในระดับ Bronze Class ในกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerates จากจำนวนบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ได้รับการประเมินทั้งหมด 66 บริษัท ทั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของเครือซีพีในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนครบทุกมิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะองค์กรภาคเอกชนไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นองค์กรไทยรายเดียวในการได้รับติดอันดับการประเมินความยั่งยืนในรายงาน The Sustainability Yearbook 2022 ระดับ Bronze Class ในกลุ่มอุตสาหกรรม Industrial Conglomerate ซึ่งมีคะแนนอยู่ในช่วง 5%-10% ของบริษัทที่มีผลการดำเนินการด้านความยั่งยืนสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยลำดับแรก คือ ซีเมนส์ (Siemens AG) กลุ่มบริษัทพลังงานจากประเทศเยอรมนี ตามมาด้วยกลุ่มธุรกิจ เอส.เค (SK Inc.) กลุ่มบริษัทธุรกิจด้านไอทีจากประเทศเกาหลีใต้ โดยองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับในรายงานฉบับนี้จะต้องผ่านการทำแบบประเมินเรียกว่า Corporate Sustainability Assessment หรือ CSA ซึ่งใช้ในการจัดอันดับดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจน หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ซึ่งพิจารณาจากผลการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในมิติด้านบรรษัทภิบาล เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเครือซีพีมีความโดดเด่นครอบคลุมมิติด้านความยั่งยืนหลายด้านตามเกณฑ์การประเมิน อาทิ กลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรายงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม จรรยาบรรณธุรกิจ การจัดการนวัตกรรม และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ทั้งนี้นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานทางธุรกิจเพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำองค์กรแห่งความยั่งยืน
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า เครือซีพีมีเข็มทิศในการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญผ่านยุทธศาสตร์ความยั่งยืน 3 Hs คือ Heart - Living Right, Health - Living Well และ Home - Living Together ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ SDGs และให้ความสำคัญในการดำเนินงานตามแนวทางของ ESG คือการทำธุรกิจที่ต้องคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance) รวมไปถึงการทำงานเชิงรุกเพื่อผลักดันวาระของโลกในหลายประเด็น ทั้งนี้นับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ที่จะต้องเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความยั่งยืนของเครือซีพีสู่ปี 2573 ไปพร้อมกับการเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านความยั่งยืน ในการสร้างความสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม
สำหรับการจัดอันดับในรายงาน The Sustainability Yearbook 2022 เป็นรายงานที่ได้รับความเชื่อมั่นในนักลงทุนและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยมีบริษัทเข้าร่วมการประเมิน 7,554 แห่งทั่วโลก และมีเพียง 716 บริษัทจาก 61 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการคัดเลือกจัดอันดับในรายงานฉบับนี้ ซึ่งในปีนี้มีบริษัทไทยเพียง 41 องค์กร ที่ได้รับการจัดอันดับ โดยนอกจากเครือซีพียังมีบริษัทในเครือฯติดอันดับในรายงาน The Sustainability Yearbook 2022 ได้แก่ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร บมจ. ซีพี ออลล์ และบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น นอกจากนี้ยังมีองค์กรไทยที่ได้ติดอันดับในรายงานฉบับนี้ อาทิ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) บมจ.บ้านปู (BANPU) และบจ. น้ำตาลมิตรผล ซึ่งพิจารณาจากผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุมในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลการประเมินเป็นการเรียงลำดับตาม Percentile โดยองค์กรที่อยู่ใน 15% แรกของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะถูกจัดรายชื่อให้อยู่ในรายงานฉบับนี้