การกำกับดูแลกิจการ
เป้าหมายและผลการดำเนินงาน
รากฐานของการกำกับดูแลกิจการที่มั่นคงจะส่งเสริมให้เครือเจริญโภคภัณฑ์สามารถกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจและความมุ่งมั่นของเราในการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับประเทศที่เราดำเนินธุรกิจ ผู้คน และพนักงานของเรา ด้วยเหตุนี้ เครือฯ จึงกำหนดให้หน่วยธุรกิจทั้งหมดปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างระมัดระวัง รวมถึงมาตรฐานของเครือฯ
ทุกกลุ่มธุรกิจได้รับการประเมินผลที่ได้รับการยอมรับของการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการ
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
การดำเนินงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีส่วนช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของ Sustainable Development Goals จำนวน 2 เป้าหมายด้วยกัน
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sustainable Development Goals Report 2023
ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการประเมินและจัดลำดับความสำคัญผู้มีส่วนได้เสียเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินผลกระทบที่เรามีต่อผู้มีส่วนได้เสีย และประเด็นใดที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญและจะมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์และการดำเนินการของเราเมื่อเวลาผ่านไป ในปี 2565 ผลการประเมินพบว่าผลงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีสร้างผลกระทบโดยตรงต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 11 กลุ่ม
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Stakeholder Engagement Report 2023
Our Impact by the Numbers
-
จรรยาบรรณธุรกิจ
-
นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลผระโยชน์
-
นโยบายและแนวปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน
-
นโยบายและแนวปฏิบัติการให้ รับของขวัญหรือผลประโยชน์อื่นใด
แนวทางการบริหารจัดการด้านการกำกับดูแล
เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการในการดำเนินธุรกิจของเรา นอกจากนี้เรายังปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกรายอย่างเท่าเทียม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราดำเนินการอย่างโปร่งใสผ่านความรับผิดชอบต่อหลักการกำกับดูแลกิจการ และได้บูรณาการเข้ากับการดำเนินธุรกิจของเราอย่างเคร่งครัด
หลักการการกำกับดูแลกิจการเปรียบเสมือนพื้นฐานสำหรับคณะกรรมการบริษัทในการกำกับดูแลธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีการเคารพสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมทั้งมีการควบคุมและบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจสูงสุด การดำเนินงานทั้งหมดนี้ ช่วยเพิ่มมูลค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติ สังคม และเครือเจริญโภคภัณฑ์
เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้กำหนดกระบวนการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การประสานการดำเนินงานร่วมกับตัวจากบริษัทในเครือฯ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแนวทางการดำเนินงานของเราเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการดำเนินงานนั้นเป็นไปตามนโยบายและแนวปฏิบัติในระดับเครือฯ ซึ่งกลไกการกำกับดูแลกิจการของเครือฯ ประกอบไปด้วย การจัดตั้งโครงสร้างการกำกับดูแล โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องคณะต่าง ๆ ขึ้นมากำกับดูแลกิจการ การกำหนดแนวทางการดำเนินงาน การสื่อสารและการสร้างการมีส่วนร่วม การติดตามและการรายงานผลการดำเนินงาน ตลอดจนการเปิดเผยผลการดำเนินงาน
ความรับผิดชอบของผู้บริหารต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
คณะกรรมการบริษัทของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้อนุมัติจัดตั้งคณะกรรมการบริหารความยั่งยืน ซึ่งมีคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นประธานของคณะกรรมการบริหารความยั่งยืน นอกจากนี้ ในปี 2566 ดร. ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธได้ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เพื่อช่วยในการจัดการและกำกับดูแลการดำเนินการตามนโยบายและการดำเนินการด้านความยั่งยืนในระดับเครือฯ บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารความยั่งยืนประกอบด้วยการกำกับดูแลและกำหนดนโยบายและเป้าหมายด้านความยั่งยืนเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้เสีย กำหนดกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ขับเคลื่อนการดำเนินการด้านความยั่งยืน รวมถึงจัดการและติดตามการดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั่วทั้งกลุ่ม
เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานตามเป้าหมายสู่ความยั่งยืนเครือฯ ปี 2573 ทั้ง 15 เป้าหมายได้รับการดำเนินการอย่างเป็นระบบทั่วทั้งกลุ่ม เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รวมเป้าหมายดังกล่าวให้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้สำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารตามขอบเขตความรับผิดชอบ ผลของการประเมินจะถูกสะท้อนในรุปแบบการกำหนดค่าตอบแทนประจำปี ซึ่งผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารจะถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการบริหารตามด้งยคณะกรรมการบริษัทตามลำดับ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสของกระบวนการประเมินผลและกำหนดค่าตอบแทน ลำดับชั้นการอนุมัตินี้เหมือนกับสายการรายงานของกิจกรรมด้านความยั่งยืน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างความยั่งยืน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ โครงสร้างการกำกับดูแลความยั่งยืน
เป้าหมายและกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน | หน้าที่ความรับผิดชอบ | ||||
---|---|---|---|---|---|
ประธานคณะผู้บริหาร เครือฯ | ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร | ผู้อำนวยการด้านพัฒนาความยั่งยืน | ผู้บริหาร / ผู้จัดการของหน่วยธุรกิจ | พนักงาน | |
การกำกับดูแลกิจการ | |||||
สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน | |||||
การศึกษาและการลดความเหลื่อมล้ำ | |||||
การพัฒนาผู้นำและทรัพยากรบุคคล | |||||
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการปกป้องข้อมูล | |||||
สุขภาพและสุขภาวะที่ดี | |||||
คุณค่าและการสร้างประโยชน์ ทางเศรษฐกิจให้แก่สังคม | |||||
ความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงโภชนาการ | |||||
การบริหารจัดการนวัตกรรม | |||||
การสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้เสีย | |||||
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | |||||
ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน | |||||
การดูแลรักษาทรัพยากรน้ำ | |||||
การปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ | |||||
การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ |
การบริหารจัดการความเสี่ยง
เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยง โดยได้นำระบบการบริหารงานแบบบูรณาการด้านการกำกับดูแลกิจการ การบริหารความเสี่ยงและการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ หรือ Integrated Governance, Risk Management and Compliance: Integrated GRC เข้ามาใช้ นอกจากนี้ เครือฯ ยังได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงองค์กรตามมาตรฐานสากลของ Committee of Sponsoring Organizations of the Treadway Commission (COSO) เพื่อให้มั่นใจถึงการปรับปรุงและความยืดหยุ่นของเครือฯ ในการจัดการความเสี่ยงที่ตอบสนองความต้องการของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
การสร้างวัฒนธรรมการจัดการความเสี่ยง
เพื่อให้เครือเจริญโภคภัณฑ์สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของการดำเนินธุรกิจ เครือฯ จึงได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างวัฒนธรรมการจัดการความเสี่ยงให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร โดยมีแนวทางดังนี้ การประกาศใช้นโยบายและแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ การทบทวนโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงให้มีความชัดเจนในบทบาทหน้าที่มากยิ่งขึ้น การสื่อสารและการอบรมด้านความเสี่ยง และการเผยแพร่ความรู้ด้านการบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ เครือฯ ยังมีระบบการตรวจสอบภายในที่เข้มงวดเพื่อให้มั่นใจถึงการปฏิบัติตามโปรแกรมการจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด โดยกระบวนการตรวจสอบภายในนี้จะทบทวนและติดตามความสอดคล้องกับนโยบายการจัดการความเสี่ยงที่จัดตั้งขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ระบุพื้นที่ที่ต้องการการปรับปรุง และมั่นใจว่ามีการดำเนินการแก้ไขทันทีเพื่อบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
เจริญโภคภัณฑ์มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานทุกระดับเอาใจใส่ต่องานประจำวันและตระหนักถึงกฎการบริหารความเสี่ยงของเครือฯ เครือฯ จึงได้มีการนำประเด็นด้านการบริหารความเสี่ยงเป็นหนึ่งในเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน
การอบรมด้านความเสี่ยง
เครือเจริญโภคภัณฑ์จัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านความเสี่ยงให้แก่ผู้บริหารและพนักงานเป็นประจำ เพื่อปลูกฝังความเข้าใจและการปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งนำไปสู่การป้องกันการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบต่างๆ ของรัฐบาลและของเครือฯ
- หลักสูตรประสิทธิภาพของการควบคุมความเสี่ยง หลักสูตรนี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้บริหารและหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการบริหารความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจของผู้บริหารและพนักงานเกี่ยวกับมาตรการควบคุมความเสี่ยง และสามารถนำแนวทางและวิธีการติดตาม วัดผล และประเมินมาตรการบริหารความเสี่ยงของกิจการได้
- การบริหารความเสี่่ยงของเครือฯ และการประเมินความเสี่ยงองค์กร หลักสูตรนี้จัดทำขึ้นสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านการบริหารความเสี่่ยง ความเข้าใจตามบทบาทหน้าที่่ในการกำกับดููแลงานบริหารความเสี่ยงองค์กร โดยหัวข้อของการอบรม ได้แก่ ประสิทธิภาพของการควบคุมความเสี่่ยง ซึ่งจัดขึ้นสำหรับผู้บริหารและหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการบริหารความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจของผู้บริหารและพนักงานเกี่ยวกับมาตรการควบคุมความเสี่ยง
การวิเคราะห์ความเสี่ยงใหม่
เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการดำเนินงานอย่างยั่งยืน เครือฯ ได้นำวิธีการวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างครอบคลุมมาใช้ โดยพิจารณาจากหลายมุมมอง รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทั้งหมดของเครือฯ คู่ค้า และกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด นอกจากนี้ ยังได้วิเคราะห์ผลกระทบในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อประเมินระดับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและกำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสม
ชนิดของความเสี่ยง: ด้านสิ่งแวดล้อม
คำอธิบายความเสี่ยง:
การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบนิเวศเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์เนื่องจากมีผลกระทบต่อความยั่งยืนและความเป็นอยู่ของมนุษย์ การดำเนินงานของเราในภาคการเกษตร การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการผลิตอาหารพึ่งพาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ความเสื่อมโทรมของความหลากหลายทางชีวภาพทำให้ระบบธรรมชาติมีความเสียหาย ลดผลผลิตทางการเกษตร และคุกคามความมั่นคงทางอาหารสำหรับชุมชนที่พึ่งพาผลิตภัณฑ์ของเรา ทำให้ทรัพยากรที่จำเป็นเช่นน้ำสะอาดและดินอุดมสมบูรณ์ตกอยู่ในความเสี่ยง
การล่มสลายของระบบนิเวศก่อให้เกิดความไม่มั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้พืชและสัตว์เลี้ยงมีความเสี่ยงต่อศัตรูพืช โรค และสภาพอากาศที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และการขาดแคลนของวัตถุดิบ ความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ผ่านการลดลงของบริการระบบนิเวศ เช่น การฟอกอากาศและน้ำ การผสมเกสร และการควบคุมสภาพอากาศ เป็นต้น การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพช่วยให้โลกยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปและสนับสนุนการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ การเสื่อมสภาพของระบบนิเวศส่งผลกระทบต่อชุมชน ทำให้ความไม่เท่าเทียมทางสังคมแย่ลง การจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้มีความสำคัญต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมของเครือเจริญโภคภัณฑ์
ความเสี่ยงต่อเครือฯ:
การเปลี่ยนแปลงของความหลากหลายทางชีวภาพและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศส่งผลโดยตรงต่อความพร้อมของวัตถุดิบ ทรัพยากรน้ำ บริการผสมเกสร และความยืดหยุ่นโดยรวมของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบนิเวศยังเป็นความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ ชื่อเสียง และการเข้าถึงตลาดสำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์อีกด้วย
ความคาดหวังของสังคมและความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียก็มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะ ผู้บริโภค นักลงทุน และองค์กรภาคประชาสังคมต่างให้ความสำคัญกับบริษัทที่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมากขึ้น
การเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนอง:
เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้จัดตั้งมาตรการลดความเสี่ยงที่ครอบคลุม เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบนิเวศ ซึ่งรวมถึงการจัดลำดับความสำคัญในการจัดหาผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารทะเลอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รับรองการจัดการป่าไม้อย่างรับผิดชอบ และลงทุนในโครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เครือฯ ยังดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ และมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและการตัดสินใจร่วมกัน นอกจากนี้ เครือฯ ยังลงทุนในงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน เครือฯ ยังปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งสนับสนุนการเกษตรและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เป็นมิตรต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างแข็งขัน ความพยายามเหล่านี้เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของเครือฯ ต่อการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ รวมถึงความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมเชิงบวกต่อความยั่งยืนและความพยายามในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ชนิดของความเสี่ยง: ด้านสังคม
คำอธิบายความเสี่ยง:
การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่มีการดำเนินงานกว้างขวางในภาคการเกษตร การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการผลิตอาหาร ห่วงโซ่อุปทานของเรามีผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมาก รวมถึงคู่ค้า ผู้รับเหมา และพันธมิตรในหลายภูมิภาค การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะมาตรฐานจริยธรรม เช่น สิทธิมนุษยชน กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม และการค้าที่เป็นธรรม เป็นต้น สามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจของเรา ความเสี่ยงนี้อาจนำไปสู่การถูกลงโทษทางกฎหมาย การเสียชื่อเสียง และการสูญเสียความไว้วางใจจากผู้บริโภค ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อชื่อเสียงและตำแหน่งทางการตลาดของเรา การละเมิดที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน เช่น การใช้แรงงานเด็ก สภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย หรือการละเมิดสิ่งแวดล้อม เป็นต้น อาจทำให้การดำเนินงานหยุดชะงักและนำไปสู่การสูญเสียทางการเงิน นอกจากนี้ การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานอาจส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานไม่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนเพิ่มขึ้น และความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ นักลงทุน และลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบขององค์กรตึงเครียด
ความเสี่ยงต่อเครือฯ:
การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานส่งผลกระทบอย่างมากต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ อาจนำไปสู่การถูกปรับและค่าปรับทางกฎหมายที่มีมูลค่าสูง ความเสียหายทางชื่อเสียง โดยเฉพาะจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้ความไว้วางใจของผู้บริโภคลดลงและทำให้ชื่อเสียงของเราเสียหาย ส่งผลต่อการวางตำแหน่งทางการตลาด การสูญเสียทางการเงินจากความล่าช้าในการดำเนินงาน ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและความต่อเนื่องทางธุรกิจ การหยุดชะงักเหล่านี้อาจยุติความสัมพันธ์กับคู่ค้า และสร้างความท้าทายในการจัดหาวัตถุดิบ การละเมิดที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนสร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ นักลงทุน ลูกค้า และพันธมิตรที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบขององค์กร การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลและองค์กรพัฒนาเอกชนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการกำกับดูแลที่เข้มงวดมากขึ้น โอกาสทางการตลาดอาจสูญเสียไปเนื่องจากผู้บริโภคชอบบริษัทที่มีความรับผิดชอบทางจริยธรรม การละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น แรงงานเด็ก มีผลกระทบทางสังคมที่รุนแรง การไม่ปฏิบัติตามยังส่งผลต่อขวัญกำลังใจและการรักษาพนักงาน การจัดการกับผลกระทบเหล่านี้ต้องอาศัยการปฏิบัติด้านจริยธรรมที่เข้มงวด การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และการมีส่วนร่วมเชิงรุกกับผู้มีส่วนได้เสีย
การเตรียใความพร้อมเพื่อตอบสนอง:
เครือเจริญโภคภัณฑ์ต้องใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรวมถึงการนำแนวปฏิบัติในการดำเนินการของคู่ค้ามาใช้ การกำหนดแนวทางสัญญาจัดซื้อ การตรวจสอบสถานะคู่ค้าอย่างละเอียด และการลงโทษคู่ค้าที่มีผลการประเมินต่ำกว่ามาตรฐานหรือพบว่ามีการละเมิดข้อกำหนด นอกจากนี้ เครือฯ ยังริเริ่มการตรวจสอบย้อนกลับและความโปร่งใสโดยใช้เทคโนโลยี เช่น บล็อกเชนและระบบการจัดการห่วงโซ่อุปทาน และอื่นๆ อีกมากมาย เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เครือฯ สามารถติดตามและตรวจสอบกิจกรรมของคู่ค้าได้อย่างแม่นยำ
ชนิดของความเสี่ยง: ด้านเทคโนโลยี
คำอธิบายความเสี่ยง:
ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) และระบบอัตโนมัติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ เทคโนโลยีเหล่านี้มีโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรม แต่ก็มีความท้าทายหลายประการ เช่น การสูญเสียงาน ความกังวลด้านจริยธรรม และการลงทุนในทักษะใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น การบูรณาการระบบ AI และระบบอัตโนมัติอาจทำให้รูปแบบธุรกิจดั้งเดิม ห่วงโซ่อุปทาน และตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงไป โดยเครือฯ ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและแสดงออกของความรับผิดชอบต่อสังคม
ความเสี่ยงต่อเครือฯ:
ผลกระทบที่เกิดจากการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ และระบบอัตโนมัติที่มีต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้นมีหลากหลายประเด็น เช่น การสูญเสียงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก เนื่องจากระบบอัตโนมัติสามารถเข้ามาทดแทนการทำงานโดยมนุษย์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของพนักงาน ดังนั้น การจัดการฝึกอบรมและการเปลี่ยนตำแหน่งงานที่ทั่วถึงจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ ความต้องการทักษะใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ AI และระบบอัตโนมัติอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าการจัดหาพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ทำให้เกิดช่องว่างด้านทักษะที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของเครือฯ ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การบูรณาการ AI และระบบอัตโนมัติจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานอย่างมาก ซึ่งต้องลงทุนในระบบ โครงสร้างพื้นฐาน และโปรแกรมฝึกอบรมใหม่ๆ มากไปกว่านั้น การนำ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ อาจนำไปสู่ปัญหาด้านจริยธรรมและการปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยเฉพาะการใช้ AI ในกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความอคติ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ
การเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนอง:
เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการบูรณาการ AI และระบบอัตโนมัติ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้จัดการฝึกอบรมที่ให้กับพนักงาน เพื่อฝึกทักษะใหม่และเพิ่มทักษะสำหรับการเตรียมความพร้อมกับบทบาทใหม่ที่เกิดขึ้นจาก AI และระบบอัตโนมัติ โปรแกรมเหล่านี้ได้รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการศึกษาและผู้ให้บริการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เครือฯ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการปฏิบัติ AI ที่มีจริยธรรมโดยยึดตามแนวทางที่เข้มงวดเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ความยุติธรรม และความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยี AI และมีการทบทวนและพัฒนาแนวทางเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ เครือฯ ยังมีการสื่อสารกับพนักงานเกี่ยวกับประโยชน์และความท้าทายของ AI และระบบอัตโนมัติ การสื่อสารนี้ ส่งเสริมการสนทนาอย่างเปิดเผย เพื่อจัดการกับความกังวลและสร้างความมั่นใจ ในแง่ของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เครือฯ จัดสรรทรัพยากรสำหรับการนำเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติไปใช้ในพื้นที่ที่สามารถสร้างมูลค่าสูงสุด พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอาชีพให้กับพนักงานของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวและความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของเครือฯ
การปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้กำหนดหลักการดำเนินงานและการประพฤติปฏิบัติที่ดีไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งได้ส่งมอบให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับได้รับทราบ ทำความเข้าใจ และยึดถือเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินงาน
จรรยาบรรณธุรกิจกระบวนการระบุความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
การจัดทำโปรไฟล์ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ: การประเมินทั้งความเป็นไปได้และความรุนแรงของการไม่ปฏิบัติตาม มีการประเมินอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของการปฏิบัติตามและกำหนดมาตรการ
การอบรมด้านการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ประเภทของการสื่อสารที่เหมาะสมจะถูกเลือกโดยพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหา และวัตถุประสงค์ตามแผนการสื่อสารและการฝึกอบรมที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางการให้คำปรึกษาเพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ ซึ่งประเด็นหรือปัญหาที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ เพื่อปรับปรุงกระบวนการสื่อสารต่อไป
การมีส่วนร่วมของพนักงานในการพัฒนาการปฏิบัติตามกฎระเบียบ: เครือฯ ได้ใช้ผลการสำรวจการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เพื่อพัฒนากระบวนการปฏิบัติงาน ตลอดจนการฝึกอบรมและการสื่อสาร เครือฯ ได้นำผลการสำรวจมาวางแผนปรับปรุงการรับทราบของพนักงาน ดังนี้
- การพัฒนาจิตสำนึกในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- การสร้างความตระหนักในการแจ้งเบาะแสและข้อร้องเรียน
- การสร้างความตระหนักในการเข้าถึงจรรยาบรรณ นโยบาย แนวปฏิบัติ และระเบียบปฏิบัติ
การรับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแส
เครือเจริญโภคภัณฑ์มีนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแส เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือข้อร้องเรียนต่าง ๆ ทั้งจากบุคคลภายในและภายนอกที่ได้รับผลกระทบ หรือมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของเครือฯ นอกจากนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจน สุจริต และโปร่งใส เครือฯ ได้กำหนดให้แนวปฎิบัติมีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส/ผู้ร้องเรียน กระบวนการสอบสวน และบทลงโทษ นอกจากนี้ เครือฯ ยังได้รวมแนวปฏิบัติที่ระบุไว้ในหลักจรรยาบรรณ นโยบายและแนวปฏิบัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแนวปฏิบัติที่กำหนดไว้ในกฎหมาย กฎเกณฑ์ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเข้าไว้ในเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ผลการปฏิบัติตามกฎระเบียบไม่เพียงแต่เชื่อมโยงกับค่าตอบแทนประจำปีของพนักงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโอกาสในการเติบโตในอาชีพอีกด้วย
จำนวนเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดของพนักงาน และมาตรการในการจัดการ สำหรับปี 2566
2566 | มาตรการในการจัดการ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
กรณีร้องเรียน | อยู่ระหว่างการสืบสวน | เสร็จสิ้น | ตักเตือนด้วยวาจา | ตักเดือนด้วยลายลักษณ์อักษร | พักงาน | เลิกจ้าง | |
ข้อร้องเรียนด้านจรรยาบรรณ และจริยธรรม (กรณี) | |||||||
ฉ้อโกง | 2 | - | 2 | - | - | 1 | 1 |
ผลประโยชน์ทับซ้อน | 2 | - | 2 | - | 1 | - | 1 |
การไม่ดำเนินงานตามกฎระเบียบ | 5 | - | 5 | 5 | - | - | - |
การเลือกปฏิบัติ | 3 | - | 3 | 3 | - | - | - |
การล่วงละเมิด | 3 | - | 3 | 2 | - | - | 1 |
คอร์รัปชั่น | 1 | - | 1 | - | 1 | - | - |
การซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน | - | - | - | - | - | - | - |
การต่อต้านการแข่งขัน | - | - | - | - | - | - | - |
ข้อร้องเรียนด้านความปลอดภัยของข้อมูล (กรณี) | |||||||
การละเมิดความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า | - | - | - | - | - | - | - |
รวม (กรณี) | 16 | 0 | 16 | 10 | 2 | 1 | 3 |
หมายเหตุ: เป็นจำนวนข้อร้องเรียนเฉพาะที่ได้รับผ่านช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนสำหรับผู้มีส่วนได้เสียบนเว็บไซต์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ https://grc.cpgroupsustainability.com
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ข้อมูลการละเมิด จรรยาบรรณ และจริยธรรม ปี 2566