เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีเป้าหมายที่จะยกระดับแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน และดำเนินกลยุทธ์เชิงนวัตกรรม เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่มีความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานของเรา เพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการดำเนินงานของเรา และส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืน

Achieve carbon neutrality (Scope 1+2)

SBT near-term target for Scope 1+2, reduction by 42%

SBT near-term target for Scope 3, reduction by 25%

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

การดำเนินงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีส่วนช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของ Sustainable Development Goals จำนวน 6 เป้าหมายด้วยกัน


สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sustainable Development Goals Report 2023

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการประเมินและจัดลำดับความสำคัญผู้มีส่วนได้เสียเป็นประจำทุกปี เพื่อประเมินผลกระทบที่เรามีต่อผู้มีส่วนได้เสีย และประเด็นใดที่ผู้มีส่วนได้เสียให้ความสำคัญและจะมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์และการดำเนินการของเราเมื่อเวลาผ่านไป ในปี 2566 ผลการประเมินพบว่าความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อการลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด 5 กลุ่ม


สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Stakeholder Engagement Report 2023

Our Impacts by the Numbers

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ร้อยละ เมื่อเทียบกับปีฐาน 2561

พลังงานที่ใช้ทั้งหมด

ล้านกิกะจูล

ร้อยละ

สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน

ล้านบาท

ของการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

แนวทางการบริหารจัดการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จากการที่ทั่วโลกให้ความสนใจต่อการก้าวสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนเป็นศูนย์ เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงมองว่านี่เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเครือฯ ดังนั้น เราจึงได้กำหนดเป้าหมาย Carbon Neutral ซึ่งได้รับการรับรองเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือ Science-base Target เป้าหมายนี้เป็นแนวทางในการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของความตกลงปารีสในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้ไม่เกิน 1.5°c

เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกกิจกรรม การพัฒนาระบบการขนส่งที่ทันสมัย รวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ การจัดหาวัตถุดิบคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน ไม่ทำลายป่า ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และลงทุนในการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

นโยบายและความมุ่งมั่นด้านการบริหารจัดการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (C.P. Group) เครือฯ ตระหนักถึงความเร่งด่วนที่เพิ่มขึ้นในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่กว้างขวางต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจของเรา เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายนี้ เครือฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบายความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยยึดมั่นในมาตรฐานสากลสูงสุดอย่างไม่เปลี่ยนแปลง เราได้นำข้อพิจารณาด้านความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาบูรณาการในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่การวางแผนเชิงกลยุทธ์ไปจนถึงการดำเนินงานประจำวัน เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรของเรามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้

แนวทางของเครือฯ ให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม และการบูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศในทุกระดับของการตัดสินใจ ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดและข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศระดับสากล เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้น้ำ และการจัดการของเสีย เพื่อที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความยืดหยุ่นต่อการขาดแคลนทรัพยากรและการหยุดชะงักที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ

นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียหลากหลายกลุ่ม รวมถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด โดยการส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน การจัดหาทรัพยากรอย่างมีจริยธรรม และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เครือฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายการจัดหาที่มีความยืดหยุ่นและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น การมีส่วนร่วมของเครือฯ ยังครอบคลุมไปถึงชุมชนท้องถิ่นและผู้มีส่วนได้เสียในภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการแก้ไขผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อประชากรที่เปราะบาง และส่งเสริมความยืดหยุ่นทางสังคมผ่านโครงการที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศที่เข้มแข็ง ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับผู้กำหนดนโยบาย เครือฯ มุ่งหวังที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับสังคม

นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังลงทุนในโซลูชั่นและเทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับเป้าหมายการสร้างความยืดหยุ่นของเครือฯ เราสนับสนุนและให้เงินทุนกับโครงการที่ช่วยบรรเทาและปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเสริมสร้างความยืดหยุ่นของชุมชน พร้อมทั้งสนับสนุนให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเราดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกัน

การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักถึงความสำคัญว่าความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของเราอย่างไร ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการบริหารจัดการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม ซึ่งได้นำกรอบการรายงานของ Task Force on Climate-related Financial Disclosures (TCFD) มาใช้ แนวทางเชิงรุกนี้ช่วยให้เราสามารถระบุ ประเมิน และจัดการกับความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะจัดการกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกันก็เปิดรับศักยภาพในการเติบโตและนวัตกรรมที่ยั่งยืน

การประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ:

เราประเมินความเสี่ยงทางกายภาพ การเปลี่ยนผ่าน และชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นระบบผ่านการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านสภาพภูมิอากาศของเรา การวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อขั้นตอนการผลิต ระบบการกระจายสินค้า และความต้องการของตลาดเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการประเมินนี้ การทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยให้เราสร้างแผนการฟื้นฟู ลดความเปราะบาง และปกป้องบริษัทของเราจากการหยุดชะงักทางธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

การประเมินโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ:

นอกเหนือจากการประเมินความเสี่ยง วิธีการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญต่อการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาสยังทำให้เราพบความเป็นไปได้ที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจที่มีคาร์บอนต่ำและยั่งยืน ซึ่งเราเสาะหาแนวทางการดำเนินงานที่ไม่เพียงแต่เหมาะสมต่อธุรกิจของเรา แต่ยังตอยสนองต่อรูปแบบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาส การพัฒนาทางเทคโนโลยี และความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เครือฯ เห็นความสำคัญต่อการลงทุนในแหล่งพลังงานหมุนเวียน การใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และผลิตผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน

การบูรณาการเข้าสู่การตัดสินใจ:

การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่กิจกรรมที่ทำขึ้นและจบไป แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการตัดสินใจของเรา เครือฯ มีการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทของเราจะสามารถปรับตัว มีความสามารถในการแข่งขันได้ และมีความยั่งยืนในสภาพแวดล้อมภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาส ซึ่งเครือฯ ได้รวมการพิจารณาสภาพภูมิอากาศไว้ในการวางแผนเชิงกลยุทธ์และการตัดสินใจลงทุนของเรา

การปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตระหนักถึงการเป็นส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ และตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส จึงได้กำหนดเป้าหมายและนโยบายที่จะเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2573 และได้มีการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ แบ่งออกเป็นกิจกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Mitigation Action) และกิจกรรมที่จัดการความเสี่ยงที่เกิดจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation Action)

การรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม

ที่เครือฯ เราตระหนักถึงความสำคัญของการได้รับการรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS) ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน การผ่านการรับรองมาตรฐาน EMS พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างชื่อเสียงของเราให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย และการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทั่วโลก ในสถานการณ์ที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญกับ ช่วยให้เราลดความเสี่ยง เปิดโอกาสในการลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้เรามีความได้เปรียบทางการแข่งขัน นอกจากนี้ การรับรองระบบ EMS ยังส่งเสริมวัฒนธรรมการตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในหมู่พนักงานของเรา สร้างความภาคภูมิใจและการมีส่วนร่วมในความรู้ที่พวกเขาทำงานให้กับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นอันดับแรก และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างแข็งขัน

การรับรอง / การตรวจสอบ สัดส่วนการรับรอง (ร้อยละ)
ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล 50.22
การรับรอง / การตรวจสอบโดยบุคคลที่สามที่เชี่ยวชาญ 15.05
การรับรองภายใน / การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานใหญ่ 34.73
รวม 100

แนวทางการไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นที่จะดำเนินการอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เราได้กำหนดเป้าหมายที่สำคัญสองประการ ได้แก่ การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 เป้าหมายที่เหล่านี้แสดงออกถึงการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและสะท้อนวิสัยทัศน์ของเราสำหรับอนาคตที่สะอาดขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573

ภายในเจ็ดปีต่อจากนี้ เครือฯ ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมากเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นกลางของคาร์บอน เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสมดุลในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยความพยายามในการชดเชยที่ผ่านนวัตกรรม ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการจัดหาอย่างมีจริยธรรม เพื่อให้บรรลุผลการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573

การปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

เป้าหมายของเราในการบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 หลังปี 2573 ถือเป็นแนวทางระยะยาวที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของเรา เรามุ่งมั่นที่จะกำจัดหรือชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมดของเราอย่างสมบูรณ์ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของบริษัทจะมีแนวทางที่ยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายระยะสั้นภายในปี 2573
SBT: เป้าหมายระยะสั้นสำหรับ Scop 1+2
ลดลงร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2564
SBT: เป้าหมายระยะสั้น Scope 3
ลดลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2564
เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
SBT: บรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions (Scope 1+2+3)
เมื่อเทียบกับปีฐาน 2564

การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และการบริหารจัดการมลพิษทาอากาศ

การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

เครือฯ และบริษัทในเครือให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะด้านอากาศ ด้านน้ำ ด้านของเสีย เป็นต้น ผ่านการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ และในทุกเขตประเทศที่เครือฯ เข้าไปดำเนินกิจการ ตลอดจนปลูกจิตสำนึกให้กับพนักงานให้เห็นความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า หรือ การลดการใช้พลาสติก เป็นต้น

สำหรับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เครือฯ ได้มีการตรวจสอบการใช้ทรัพยากร การใช้พลังงานต่างๆ รวมไปถึงการจัดการของเสียที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบและอุปกรณ์ตามมาตรฐานระดับสากล โดยเครือฯ ได้มีการลงทุนด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดผ่านโครงการหลากหลายประเภท ทั้งการพัฒนาพลังงานทดแทน อาทิ การลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่เกิดจากพลังงานสกปรก หรือการใช้ความร้อนใต้พิภพ การลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมไปถึงการลงทุนด้านการก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงาน เป็นต้น

สรุปผลการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

(ล้านบาท)

สรุปผลการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม

(หน่วย : ล้านบาท)

รายการ 2563 2564 2565 2566
ค่าใช้จ่ายในการลงทุน 1,464 3,718 4,292 4,845
ค่าใช้จ่ายการดำเนินการ 220 474 530 534
ผลประหยัดจากโครงการ 590 1,144 1,545 1,637
การใช้พลังงานลดลง (กิกะจูล) 551,189 726,123 898,047 1,012,435

Environment Investment Initiatives and Projects

ฟาร์มและโรงงาน
17.66 MW, 27 แห่ง 14,374 tCO2e
Supercenter
27.74 MW, 48 แห่ง 22,579 tCO2e
Supercenter
46.53 MW, 134 แห่ง 37,873 tCO2e
ร้านสะดวกซื้อและศูนย์กระจายสินค้า
64 MW, 2,669 ร้าน 25 ศูนย์ 45,492 tCO2e
แผงโซลาร์ฐานส่งสัญญาณ
17.32 MW, 7,800 แห่ง 14,098 tCO2e
ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ
0.9 MW, 2 แห่ง 733 tCO2e
แผงโซลาร์บนหลังคา
4 MW, 1 แห่ง 3,256 tCO2e
แผงโซลาร์บนหลังคา
0.03 MW, 1 แห่ง 24 tCO2e

Environmental Awareness Training

เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกกิจกรรม การพัฒนาระบบการขนส่งที่ทันสมัย รวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ การจัดหาวัตถุดิบคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน ไม่ทำลายป่า ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และลงทุนในการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยจัดให้พนักงานทุกคนในเครือฯได้รับความรู้

  • นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของเครือฯ และนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอื่นๆ
  • ความรู้เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม
  • การเก็บข้อมูลและการคำนวนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้ง 3 Scope
  • กรอบการบริหารการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการพลังงาน
  • การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อการลดก๊าซเรือนกระจก
  • กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จทั้งภายในและภายนอกเครือฯ

ความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์

นโยบายความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อการดำเนินงานอย่างยั่งยืน และมีจริยธรรม เรารับผิดชอบต่อทุกขั้นตอนของอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการจัดการการสิ้นสุดอายุการใช้งาน และเราตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในแต่ละขั้นตอน การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนของเราให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและรักษามาตรฐานคุณภาพสูงสุด เพื่อให้มั่นใจถึงมาตรฐานด้านจริยธรรมและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เราร่วมมืออย่างใกล้ชิดคู่ค้าของเราเพื่อให้มั่นใจถึงขั้นตอนการจัดหาที่มีความรับผิดชอบ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราได้ลงทุนในเทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับกระบวนการผลิตของเรา

เครือฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นอันดับแรก และเราปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณสมบัติตรงหรือเหนือกว่ามาตรฐานความปลอดภัย ด้วยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกล่าวอ้างด้านสิ่งแวดล้อม ทางเลือกในการรีไซเคิล และคำแนะนำในการกำจัดที่ถูกต้อง การติดฉลากและการสื่อสารที่โปร่งใสช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลในการตัดสินใจ ด้วยความพยายามที่จะสร้างสินค้าที่สามารถรีไซเคิลได้ง่าย เราพยายามอย่างเต็มที่ในการจำกัดการสร้างของเสียในระหว่างการผลิต และส่งเสริมการรีไซเคิลตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ เราตรวจสอบและติดตามขั้นตอนการดูแลผลิตภัณฑ์ของเราเป็นประจำตามความคิดเห็นของลูกค้าแ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ตอบสนองต่อข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราที่จะปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับข้อมูลเกี่ยวประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่นำมาพิจารณาในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์และบริการ ท่านศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นโยบายความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์

การบริหารจัดการสารเคมีและวัตถุอัตราย

เครือเจริญโภคภัณฑ์ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายอย่างเหมาะสม และสารเคมีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการของเรา และในการดำเนินงานของบริษัทให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง และนโยบายการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายของเครือฯ เพื่อลดและขจัดผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายปี 2023: เครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นที่จะลดหรือยกเลิกการใช้สารเคมีและสารอันตราย รวมถึงสารเคมีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการภายในกระบวนการดำเนินงานของบริษัท โดยยึดตามลำดับชั้นของการควบคุมและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และมาตรฐานทั้งในระดับประเทศและนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการใช้สารเคมี เช่น ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2565 และกฎระเบียบการจำกัดการใช้สารอันตราย (RoHs) เป็นต้น เพื่อควบคุมการใช้สารเคมีตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์

ในปี 2023 ไม่มีกรณีการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีและสารอันตราย ซึ่งถูกควบคุมภายใต้บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2565 และกฎระเบียบการจำกัดการใช้สารอันตราย (RoHs) ในผลิตภัณฑ์และบริการของเรา